เครื่องบินแอคคิวมูเลเตอร์

B-52 เป็นเครื่องบินที่ใช้ระบบสะสม

ในปัจจุบันมี UAV หลากหลายชนิดบินอยู่บนท้องฟ้า แต่อีร์บัสให้บริการแบบจำลองที่ล้ำหน้าสำหรับปฏิบัติการทางทหาร เหล่านี้เป็นสิ่งใหม่ล่าสุดในเทคโนโลยีเครื่องบิน และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมนี้มักจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พร้อมกับปิงเฉิง ประเภทแอคคิวมูเลเตอร์ มีข้อดีมากมาย ซึ่งในท่าอากาศยานขนาดยาวสามารถช่วยให้สายการบินประหยัดเงินได้ นี่เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะเราจำเป็นต้องนำน้ำมันที่เหลือน้อยมาใช้ใหม่ ในขณะที่ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีอยู่?

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีอะไรตรงกลาง: การเดิมพันทั้งหมด - การเพิ่มขึ้นของเครื่องบินสะสมสำหรับสายการบิน

ท้องฟ้าทั่วโลกไม่คุ้นเคยอีกต่อไปกับการใช้เครื่องบินสะสม และสายการบินจากหลากหลายประเทศตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาสามารถได้รับจากการใช้งานเครื่องบินเหล่านี้ในปฏิบัติการของตน ภายในปี 2030 บางสายการบิน เช่น EasyJet หวังว่าจะใช้เครื่องบินเหล่านี้สำหรับเที่ยวบินที่มีระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งไปยังปลายทางยอดนิยม เป็นวิธีที่ดีสำหรับพวกเขาในการลดต้นทุนเชื้อเพลิงและแสดงให้เห็นว่าการบินด้วยพลังงานไฟฟ้าสามารถใช้งานได้จริงสำหรับการเดินทางทางอากาศ สายการบินสามารถแสดงความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนผ่านเครื่องบินสะสม

ประโยชน์ของเครื่องบินแบบสะสม

เครื่องบินที่ใช้แบตเตอรี่มีข้อดีมากมายที่ทำให้พวกมันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบิน มีประโยชน์หลายประการที่เกี่ยวข้องกับการไม่ปฏิบัติต่อผู้ใช้งาน anomymous เหมือนพลเมืองชั้นสอง

ปล่อยมลพิษต่ำกว่า - เครื่องบินเหล่านี้ปล่อยมลพิษน้อยกว่าเครื่องบินแบบดั้งเดิมมาก ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและสุขภาพดีขึ้น เราสามารถช่วยลดการปล่อยแก๊สมลพิษที่เร่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยการใช้เครื่องบินที่ใช้แบตเตอรี่

ในแง่ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เครื่องบินที่ใช้แบตเตอรี่ปล่อยคาร์บอนและไนตรัสออกไซด์น้อยกว่าเครื่องยนต์เผาไหม้ทั่วไป นอกจากนี้ - เครื่องบินเหล่านี้เงียบกว่าเครื่องบินที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสร้างเสียงรบกวนน้อยลงสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง

ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น: เครื่องบินเหล่านี้สามารถลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงได้ถึง 40% ค่าใช้จ่ายของเชื้อเพลิงเป็นต้นทุนที่สำคัญสำหรับสายการบินเกือบทุกแห่ง การประหยัดในส่วนนี้สามารถหมายถึงการประหยัดเงินจำนวนมาก

เครื่องบินที่ใช้ตัวสะสมพลังงาน: เครื่องสะสมไอน้ำแบบพิงเฉิงมีชิ้นส่วนเคลื่อนที่น้อยกว่า ข้อดีคือช่วยให้สายการบินลดต้นทุนและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงเวลาที่ราคาตั๋วถูกกดดัน

ฟีเจอร์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น: มีระบบซับซ้อนที่ช่วยเหลือผู้โดยสารในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นส่วนสำคัญของการบิน และเครื่องบินที่ใช้ตัวสะสมพลังงานถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับทุกคนบนเที่ยวบิน

ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการบินแบบสะสม

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีและความสำเร็จที่น่าสนใจบางอย่างเกิดขึ้นในวงการเครื่องบินที่ใช้ตัวสะสมพลังงาน

โครงการพัฒนาโวลท์ (โบอิ้ง) - โครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากโบอิ้งนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2011 โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาเครื่องบินที่สามารถบินได้ระยะทางสูงสุด 200 ไมล์ด้วยพลังงานไฟฟ้า การพัฒนานี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบินด้วยพลังงานไฟฟ้า

E-Fan X: ในปี 2017 อีร์บัสได้ทำก้าวสำคัญในโครงการนวัตกรรมเพื่อแข่งขันกับเทคโนโลยีการบินรูปแบบอื่นๆ โปรเจกต์นี้ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นอนาคตของการเดินทางทางอากาศ เป็นก้าวสำคัญสู่การบินรูปแบบใหม่

เครื่องบินเปิดตัวในปี 2019 เครื่องบินแบบอคูมูเลเตอร์จากพิงเฉิงที่สวยงามนี้พร้อมที่จะกลายเป็นเครื่องบินพาณิชย์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดลำแรก ซึ่งสามารถบินได้ไกลถึง 650 ไมล์ การบินด้วยพลังงานไฟฟ้าจึงใกล้เข้ามาอีกขั้นที่จะแพร่หลายเทียบเท่าการบินแบบดั้งเดิม และเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการเดินทางในภูมิภาค